Black Death โรคระบาดครั้งใหญ่ในอังกฤษ

Black Death หรือกาฬมรณะ เป็นโรคระบาดที่สร้างความเสียหายให้แก่มวลมนุษย์ในแถบยุโรปถึง 200 ล้านคน สาเหตุของโรคนี้คือแบคทีเรียที่ชื่อว่า Yersinia pestis  ซึ่งเชื้อแบคทีเรียตัวนี้จะก่อให้เกิดกาฬโรคได้หลายแบบมากๆ ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ท่านได้คาดการว่าเชื้อแบคทีเรียพวกนี้เริ่มต้นมาจากประเทศจีน โดยที่เชื้อนี้แพร่มาตามเส้นทางสายไหมถึงไครเมีย ซึ่งเส้นทางสายนี้ในอดีตจะไว้สำหรับการติดต่อค้าขาย มีคนหลากหลายเชื้อชาติ มาจากทุกๆสารทิศ เป็นเส้นทางที่เชื่อมการค้าระหว่างยุโรปกับเอเชีย โดยสันนิษฐานว่ามีสัตว์เป็นพาหะ เช่น หนูและหมัด ที่อาศัยเกาะมากับเรือสินค้า ซึ่งมีการระบุไว้ว่าโรคนี้ค่าชีวิตคนไปมากกว่าครึ่งของยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นการระบาดครั้งของโรคครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์                อาการของโรคนี้จะมีหนองหรือฝี เกิดขึ้นในบริเวณข้อพับ รักแร้ เป็นต้น ซึ่งหนองหรือฝีพวกนี้ หากเจาะจะมีเลือดออกมีการระบุไว้ด้วยว่าบางครั้งหนองหรือฝีพวกนี้จะมีขนาดใหญ่ พอๆกับลูกแอปเปิ้ล และเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่วัน หนองหรือฝีพวกนี้จะลามไปทั่วร่างกาย นอกจากนี้ยังมีจุดจ้ำๆแดงๆ ตามต้นแขน ต้นขาด้วย อาการจะแย่ลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายผิวหนังของผู้ที่ติดเชื้อจะเปลี่ยนเป็นสีดำ เพราะเกิดจากเลือดที่ไหลออกในชั้นผิวหนังกำพร้าและเซลล์ผิวหนังบริเวณนั้นก็จะตายในที่สุด ผิวหนังก็จะเริ่มเปื่อยเน่า จนผู้ติดเชื้อทนกับความทรมานไม่ไหวจึงเสียชีวิตในที่สุด                ก่อนหน้าที่จะมีการแพร่ของโรคนี้ช่วงปี 1205-1322 เกิดวิกฤตการณ์ขาดแคลนอาหารขึ้นในยุโรปตอนบน เมื่ออาหารไม่เพียงพอ สินค้าทางการเกษตรก็ขาดแคลนรวมไปถึงสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไว้สำหรับบริโภคด้วย ดังนั้นราคาของอาหารจึงสูงขึ้นมาก ส่งผลให้ผู้คนอดอยากไม่มีอาหารกิน สุขภาพร่างกายย่ำแย่ ส่งผลให้ภูมิต้านทานในร่างกายน้อยตามไปด้วย และเคราะห์ซ้ำกรรมร้ายยังมีเชื้อแบคทีเรียที่ว่ามาระบาดอีก จึงกลายเป็นว่านอกจากจะมีโรคระบาดแล้ว ร่างกายของคนก็อ่อนแอด้วย นี่จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โรคนี้คร่าชีวิตคนไปได้มากมายดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น                ในส่วนของความเสียหายต่อประเทศอังกฤษ โรคนี้คร่าชีวิตประชากรชาวอังกฤษไปหลายล้านคน ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคนี้ใช้ระยะเวลานานมากในการต่อสู้กับมัน แล้วมันก็วนมาเกิดขึ้นหลายรอบมาก …

สุดยอดของมหาวิทยาลัยในอังกฤษที่โด่งดังมีที่ไหนบ้าง

5

          อังกฤษ เป็นประเทศที่มีสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นศูนย์รวมวิชาการที่ดีเลิศและมีระบบการจัดการการศึกษาที่ดีที่สุด ที่นี่มีมหาวิทยาลัยที่โด่งดังอยู่หลายแห่ง ได้แก่ 1 University of Cambridge                เป็นมหาวิทยาลัยที่เคยขึ้นสู่อันดับ 1 สุดยอดมหาวิทยาลัยของโลกในการจัดอันดับหลาย ๆ ครั้ง  ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1209 เป็นมหาวิทยาลัยที่มีนักศึกาษาได้รับรางวัลโนเบลมากที่สุดในโลกประมาณกว่า 80 คน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1752 มีสำนักพิมพ์เป็นของตนเองขนาดใหญ่ เป็นมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาทั่วโลกต้องการมาศึกษา จึงมีจำนวนนักศึกษาในปัจจุบันประมาณ17,000 คนและในจำนวนนี้มีนักศึกษาจากนานาชาติทั่วโลกอยู่ประมาณ 3,000 คน  ค่าเล่าเรียนอยู่ที่ 720,000-840,000 บาทไทยต่อปี 2 University of Oxford                นับเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอังกฤษ และเก่าแก่ที่สุดในมหาวิทยาลัยทั่วโลกที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1096 หรือเกือบ1000 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่บริเวณจตุรัสเวอริงตั้นในเมืองออกซ์ฟอร์ด ปัจจุบันมีวิทยาลัยอยู่ถึง 38 แห่ง มีจำนวนนักศึกษาประมาณ 20,000 คน ค่าเล่าเรียนอยู่ที่ 840,000-960,000 บาทไทยต่อปี 3 King’s College London                …

มาเรียนต่อที่อังกฤษต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

4

   ประเทศอังกฤษเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีระบบการศึกษาชั้นนำของโลก มีสถาบันการศึกษษอันเก่าแก่และมีคุณภาพมากมาย เป็นจุดหมายของผู้คนทั่วโลกที่ต้องการศึกษาหาความรู้ สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้า การเตรียมตัวไปเรียนต่อระเทศอังกฤษควรใช้เวลาเตรียมตัวอย่างน้อย 1 ปี จะต้องเริ่มจากการรู้ช่วงเวลาของการเปิดเทอมแต่ละระดับสถาบันที่ต้องการจะไปเรียน ระดับมหาวิทยาลัยจะมีช่วงเปิด 3 เทอมคือ ภาคฤดูใบไม้ร่วงเริ่มเดือนกรกฎาคม ภาคฤดูใบไม้ผลิเริ่มเดือนธันวาคม และภาคฤดูร้อนเริ่มเดือนพฤษภาคม การไปเรียนจึงต้องสมัครและดำเนินเรื่องก่อนหน้าจะเปิดภาคเรียนนั้น ๆ ของแต่ละเทอมและมีเวลาเดินทางไปเพื่อเรียนภาษาและเตรียมความพร้อมล่วงหน้า สำหรับระดับมัธยม ภาคฤดูใบไม้ร่วงเริ่มเดือนกันยายน ภาคฤดูใบไม้ผลิเริ่มเดือนมกราคมและภาคฤดูร้อนเริ่มเดือนกรกฎาคม การเลือกสถาบันและสมัครเรียน ควรมีการวางแผนการเรียนโดยเลือกหลักสูตรและสถาบันการเรียน เมืองที่ไปอยู่ให้เหมาะสมลงตัวก่อน  จากนั้นจึงขอวีซ่าเพื่อไปเรียน มีอยู่ 2 ชนิดคือ วีซ่าท่องเที่ยวสำหรับนักเรียนซึ่งไม่ต้องแสดงผลการสอบระดับภาษาอังกฤษ และวีซ่านักเรียนเทียร์โฟร์ ต้องแสดงผลการสอบด้วย จากนั้นจึงจะสมัครเรียนได้ เมื่อทางสถาบันได้รับเข้าเรียน ให้เอาเอกสารรับเข้าเรียนมายื่นขอวีซ่า ผลของวีซ่าจะทราบหลังวันยื่นประมาณ 5-15 วัน ในวันเดินทางสิ่งที่ลืมไม่ได้ได้แก่เอกสารต่าง ๆ คือ visa letter พาสปอร์ต หลักฐานเกี่ยวกับที่พักที่จะไปอยู่เอกสารอ้างอิง และตั๋วเครื่องบิน การเตรียมของใช้ส่วนตัว เสื้อผ้าข้าวของส่วนตัวที่ต้องเตรียมไป เสื้อผ้าควรจะมีเตรียมไปบ้างโดยเฉพาะเสื้อผ้าเมืองหนาว อาจไม่ต้องมากถ้าต้องการไปซื้อเพิ่มที่นั่น แต่ก็ต้องมีไปเพราะเสื้อผ้าจะลดราคาซื้อคุ้มต้องรอช่วงเวลาเซลล์ด้วย โทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เนตก็สำคัญ แนะนำให้ซื้อเตรียมไปจากไทย เพราะหากซื้อที่อังกฤษจะขออนุญาตเปิดเบอร์ใช้ต้องทำสัญญาอย่างน้อย 1 ปีและมีเอกสารรับรองค่อนข้างยุ่งยาก คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้คถ้าต้องการซื้อใม่ที่ไทยจะถูกกว่าเช่นกัน ในส่วนของเครื่องเขียนถ้าไม่ใช้เยอะจะนำติดก็ได้เพราะที่อังกฤษราคาแพงกว่า ยาและคอนแท็กเลนส์ก็เป็นอีกอย่างที่ควรเตรียมไป เพราะที่อังกฤษการซื้อยาต้องมีใบสั่งจากหมอเสียส่วนใหญ่ ยาแก้อักเสพแก้ปวดนำไปได้จะดีมาก …