ความสัมพันธ์ทางการค้าของไทยและ อังกฤษที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ไทยกับอังกฤษ เป็น 2 ประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการค้ามาอย่างยาวนานกว่า 400 ปี เริ่มตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 เป็นวันสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอังกฤษ อย่างเป็นทางการ ต่อมาในปี พ.ศ. 2400 ประเทศไทยได้ส่งคณะราชทูตเดินทางเพื่อ ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับสหราชอาณาจักรเป็นการตอบแทน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2425 ได้มีการแต่งตั้งหม่อมเจ้า ปฤษฎางค์ ชุมสาย ให้ป็นเอกอัครราชทูตไทยอังกฤษเป็นคนแรก

อังกฤษเป็นคู่ค้าอันดับที่ 18 ของไทย , เป็นอันดับ 2 รองจากจากสหภาพยุโรป ในช่วยเวลา 3 ปี พ.ศ. 2549 – 2551 ในเรื่อของการค้ารวม พบว่ามีมูลค่าเฉลี่ย 5,187.53 ล้านดอล์ลาร์สหรัฐ โดยประเทศไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอด

ในปี พ.ศ. 2552 การค้าไทย – อังกฤษ พบว่ามีมูลค่ากว่า 4,716.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 1.75 ของการค้ารวมของไทย ซึ่งประเทศไทยได้ส่งสินค้าต่างๆ ออกไปยังอังกฤษ เป็นจำนวน 3,237.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีการนำเข้าสินค้าจากอังกฤษ เป็นจำนวน 1,767.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ทำให้ได้เปรียบดุลการค้า 1,469.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศไทยได้มีการส่งออกไก่แปรรูป , น้ำมันสำเร็จรูป , อัญมณี , เครื่องประดับ , เสื้อผ้าสำเร็จรูป , คอมพิวเตอร์,  ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ , อาหารทะเลทั้งแบบกระป๋องและแบบแปรรูป , แผงวงจรไฟฟ้า รวมทั้งการนำเข้าเครื่องจักรกล , ส่วนประกอบทางอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก , เหล็กกล้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ , เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ , เครื่องดื่มน้ำแร่ , น้ำอัดลม,สุรา รวมทั้งเคมีภัณฑ์เป็นหลัก

ข้อมูลน่ารู้

  • ประเทศไทยเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 33 ของอังกฤษ
  • มีส่วนแบ่งตลาดนำเข้าร้อยละ 0.63

อยู่ในอันดับ 9 ของกลุ่มประเทศเอเชียทีรองจาก , จีน , ญี่ปุ่น , สิงคโปร์ , เกาหลีใต้ , ฮ่องกง , ไต้หวัน , อินเดียและมาเลเซีย

  • มีสินค้าส่งออกที่สำคัญไปยังอังกฤษ เช่น รถยนต์ , เครื่องคอมพิวเตอร์ , ไก่แปรรูป , เสื้อผ้าสำเร็จรูป , แผงวงจรไฟฟ้า , อัญมณีเครื่องประดับ , ส่วนประกอบของเครื่องจักรกล , ผลิตภัณฑ์ยาง , รถจักรยาน , เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในครัว, เครื่องยกทรง , รัดทรง เป็นต้น
  • มีสินค้านำเข้าจากอังกฤษที่สำคัญ เช่น เครื่องจักรกล , เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้า , เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ , ผลิตภัณฑ์โลหะ , ผลิตภัณฑ์จากพืช , เหล็ก , ผลิตภัณฑ์เครื่องบิน , อัญมณี , เงินแท่ง, ทองคำ , สินแร่โลหะอื่นๆ รวมทั้งเศษโลหะ เป็นต้น

กว่า 4 ศตวรรษ ที่ความสัมพันธ์ของไทย กับ อังกฤษ ได้เดินมาบนพื้นฐานของมิตรภาพอันยั่งยืนในทั้งในเรื่องของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ , การลงทุนในอนาคตร่วมกัน รวมทั้งการมีค่านิยมร่วมกันในหลายๆ ด้าน ทำให้หลังจากศตวรรษที่ 5 เป็นต้นมา ไทยกับอังกฤษ จึงมองไปยังอนาคตด้วยกันมากขึ้น และส่งผลให้ความสัมพันธ์มีความยั่งยืน แน่นแฟ้นต่อกันมากกว่าเดิม